เมนู

พรรษาไม่ครบ 5 บำเพ็ญวัตรปฏิบัติ ทำมาติกาทั้งสองให้คล่องแคล่วแล้ว
เรียนกรรมและมิใช่กรรม สะสางให้หายรกจนถึงพระอรหัต ถือกัมมัฏฐาน
ไปอยู่ป่า เริ่มการงานในปฐวีกสิณเป็นต้น. บุคคลนั้นอาศัยกัมมัฏฐาน
ก็เกิดปีติที่มีกำลังอ่อนๆ เขาอาศัยปีตินั้น ก็เกิดปราโมทย์ ปราโมทย์นั้น
ก็เป็นปัจจัยแก่ปีติที่มีกำลัง. ปีติที่มีกำลัง ก็เป็นปัจจัยแก่ปัสสัทธิ ระงับ
ความกระวนกระวาย. ปัสสัทธินั้น ก็เป็นปัจจัยแก่สุขส่วนเบื้องต้นแห่ง
อัปปนาสมาธิ สุขนั้นก็เป็นปัจจัยแก่สมาธิที่มีฌานเป็นบาท. บุคคลนั้น
ทำสุขนั้นที่พรั่งพร้อมให้เกิดด้วยสมาธิ ก็ทำการงานด้วยวิปัสสนาอย่าง
อ่อน. สมาธิที่มีฌานเป็นบาทของเขา ก็เป็นปัจจัยแก่วิปัสสนาที่มีกำลัง
อ่อน. วิปัสสนาที่มีกำลังอ่อน ก็เป็นปัจจัยแก่วิปัสสนาที่มีกำลัง. วิปัสสนา
ที่มีกำลัง ก็เป็นปัจจัยแก่มรรค. มรรคก็เป็นปัจจัยแก่ผลวิมุตติ. ผลวิมุตติ
ก็เป็นปัจจัยแก่ปัจจเวกขณญาณ. พึงทราบว่า เวลาที่พระขีณาสพ ทำสาคร
คือวิมุตติให้เต็มแล้วดำรงอยู่ ก็เหมือนเวลาที่ฝนทำสาครให้เต็มโดยลำดับ
ตั้งอยู่ ด้วยประการฉะนี้.
จบอรรถกถาอุปนิสสูตรที่ 3

4. อัญญติตถิยสูตร



ว่าด้วยทุกข์ในวาทะ 4



[71] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเวฬุวันกลันทกนิวาป-
สถาน กรุงราชคฤห์.
ครั้งนั้นแล เป็นเวลาเช้า ท่านพระสารีบุตรนุ่งแล้ว
ถือบาตรและจีวรเข้าไปสู่กรุงราชคฤห์ เพื่อบิณฑบาต ครั้งนั้นแล ท่าน
พระสารีบุตรได้มีความคิดดังนี้ว่า เวลานี้ยังเช้าเกินไปที่จะเที่ยวบิณฑบาต